COCKROACH THEORY(ทฤษฏีแมลงสาบ)

ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แมลงสาบบินจากที่ไหนสักแห่งมาเกาะที่ผู้หญิงคนหนึ่งในร้าน หลังจากนั้นเธอก็เริ่มกรีดร้องด้วยความกลัว กระโดดไปมา พร้อมกับมือก็พยายามปัดแมลงสาบออกไป แต่แมลงสาบเจ้ากรรมก็ยังนิ่งอยู่อย่างนั้น ปฏิกิริยาของเธอต่อแมลงสาบตัวนั้นเริ่มทำให้คนที่นั่งร่วมโต๊ะกับเธอประสาทเสียไปด้วย แต่ในที่สุดแมลงสาบตัวนั้นก็บินไปจากเธอ แต่!!! แมลงสาบก็ยังไม่ไปไหนไกล มันบินไปเกาะที่ผู้หญิงอีกคนในกลุ่มของเธอ และแล้วก็เหมือนหนังม้วนเดิมกำลังฉายซ้ำ ผู้หญิงคนนั้นแสดงอาการไม่ต่างจากผู้หญิงคนแรก ความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกครั้ง

พนักงานเสิร์ฟเห็นเหตุการณ์นั้นจึงเข้าไปอย่างรวดเร็วเพื่อหวังจะระงับเหตุการณ์พอดีกับที่แมลงสาบกำลังบินออกจากตัวผู้หญิงมันจึงบินเข้ามาเกาะที่เสื้อของเขาแทนแทนที่เขาจะสะบัดมันทิ้งแต่กลับยืนนิ่งสงบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วคอยสังเกตการเคลื่อนไหวของแมลงสาบเมื่อจับทิศทางการเคลื่อนไหวของมันได้เขาจึงคว้ามันและขว้างออกไปนอกร้านทันที

คำถามคือ... แมลงสาบ เป็นต้นตอของปัญหานี้หรือไม่? ถ้าใช่ ทำไมพนักงานเสิร์ฟถึงจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างง่ายดาย

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ Sundar Pichai (ซุนดาร์ พิชัย) CEO ของ Google ได้ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและพัฒนาตนเอง ซุนดาร์ได้เปรียบเทียบเรื่องทฤษฎีแมลงสาบกับชีวิตจริงว่า มีหลายๆ อย่างที่มักจะสร้างความวุ่นวายให้กับเรา เช่น เสียงบ่นของคนรอบข้าง เสียงด่าของเจ้านาย แต่ถ้าพิจารณาให้ดีๆ เป็นเราต่างหากที่เป็นผู้เลือกว่าจะรู้สึกอย่างไร ถ้าเราเลือกจะหงุดหงิดก็เพราะเราเลือกเอง ไม่ใช่เพราะสิ่งนั้น เช่นเดียวกับแมลงสาบที่มาเกาะตัวผู้หญิง เธอก็เลือกเองที่จะหวาดกลัวมัน แทนที่จะสงบนิ่งเพื่อจัดการกับมันเหมือนกับพนักงานเสิร์ฟ ซึ่งนั่นคือปฏิกิริยาของเราที่เลือกจะตอบโต้กับปัญหาที่จะเข้ามาในชีวิต มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับมือปัญหาอย่างไร หลายคนมักจะหวาดกลัวกับปัญหา แต่ซุนดาร์เลือกที่จะมีสมาธิและพิจารณาถึงปัญหาต่างๆ อย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะลงมือแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดาย