ถอดแบบอย่าง 5 ความเป็นผู้นำ ของ "วิชัย ศรีวัฒนประภา"

“ผมอาจแปลกกว่าคนอื่นนะ ตรงที่ใช้ชีวิตด้วยความสุขเป็นตัวขับเคลื่อน ตั้งแต่เล็ก ถ้าผมจะทำอะไรต้องมีความสุข ถ้าไม่มีความสุขก็อย่าคิดเลยว่าจะทำ ฉะนั้นแพง ถูก ไม่ใช่เหตุผล เหตุผลคือความชอบ เป็นคนชอบอะไรก็เต็มที่ สุดขั้ว ไม่คิดหรอกว่ามีต้นทุนเท่าไหร่”

เป็นผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจ

“คุณเปลี่ยนฟุตบอลไปตลอดกาล คุณให้ความหวังกับทุกคนว่าไม่มีอะเป็นไปไม่ได้”

ข้อความไว้อาลัยส่วนหนึ่งของ แคสเปอร์ ชไมเคิล ผู้รักษาประตูสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ เขียนถึงเจ้านายของเขา อย่างที่รู้กันว่า คุณวิชัย เป็นผู้ปลุกปั้นทีมฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ให้กลายมาเป็นแชมป์ลีกสูงสุดบนเกาะอังกฤษ ในปี 2016 และนับเป็นครั้งแรกในรอบ 132 ปี ของสโมสร ที่ได้สัมผัสถ้วยแชมป์อันยิ่งใหญ่นี้จากอัตราต่อรองก่อนเริ่มฤดูกาลการแข่งขันในปีนั้น เลสเตอร์ ซิตี้ ถูกตั้งไว้ที่ 5000/1 ซึ่งตามตัวเลขนี้ ทำให้นักวิเคราะห์ นักสถิติต่าง ๆ หรือแม้แต่คนทั่วไปก็ต่างรู้ไปในความหมายเดียวกันว่า เป็นไปไม่ได้ที่สโมสรจะเป็นแชมป์ แต่ เลสเตอร์ ซิตี้ ทำได้ ความสำเร็จครั้งที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้ กลายมาเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ โดยทั่วโลกต่างเรียกเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า “เทพนิยายเลสเตอร์”

สิ่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากไม่มีคุณวิชัย ผู้ที่ทำงานหนักตลอด 6 ปี ให้กับสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ (ก่อนได้แชมป์ในปี 2016) จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณวิชัยจะถูกยกย่องเป็นผู้ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก และข้อความข้างต้นของ แคสเปอร์ ชไมเคิล ที่ว่า “คุณให้ความหวังกับทุกคนว่าไม่มีอะเป็นไปไปไม่ได้” นั้น ก็ดูจะไม่เกินเลยไปแม้แต่น้อย

เป็นผู้นำที่ตั้งเป้าหมาย และลงมือทำ

"วันหนึ่งเราจะซื้อทีม แล้วเอามาสู้เชลซีให้ได้"

คำพูดของคุณวิชัย ที่เคยกล่าวกับคุณอัยยวัฒน์ ลูกชายคนสุดท้อง หลังจากการชมเกมฟุตบอล ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของเชลซี ก้าวแรกคือเป็นเจ้าของทีมใดทีมหนึ่งในเกาะอังกฤษให้ได้ก่อน แต่สิ่งที่คิดจะทำ ไม่ได้ราบรื่นขนาดนั้น การเจรจาซื้อทีมฟุตบอลครั้งแรกกลับล้มเหลว การให้เหุตผลในความรักในฟุตบอลของคุณวิชัยยังไม่เพียงพอ เพราะเขายังขาดประสบการณ์ ไม่รู้ว่าบุพเพหรือบุญพาวาสนาส่ง เหตุผลในความรักฟุตบอลนี้ กลับเพียงพอต่อเจ้าของทีมเลสเตอร์ ซิตี้ในอดีต ซึ่งตอนนั้นทีมอยู่ในลีกรองของเกาะอังกฤษ

สายตาและความมั่นใจของคุณวิชัย ทำให้การตกลงซื้อ ขายครั้งนี้เกิดขึ้น คุณวิชัยเข้ามาเป็น ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ คนใหม่ สิ่งที่เขาทำหลังจากเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรคือ การตั้งเป้าในการพาทีมขึ้นไปในลีกสูงสุด ซึ่งคุณวิชัยสามารถเดินตามเป้าหมายได้อีกก้าวใน 3 ปี ให้หลัง เลสเตอร์ ซิตี้ ก้าวขึ้นมาเป็นแชม์ แชมป์เปี้ยนชิพได้อย่างสวยงาม และตลอดการทำงานหนักอีกสองปีสุดท้าย ในปี 2015 - 2016 ปีที่เลสเตอร์ ซิตี้สร้างประวัติศาสตร์ในการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด โดยเกมนัดสุดท้าย เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องไปเยือนเชลซี พวกเขาได้รับการตั้งแถวต้อนรับจาก นักเตะเชลซี พร้อมกับเสียงปรบมือทั่วทั้งสนาม เพื่อให้เกียรติสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้แชมป์ในปีนั้น ภาพนี้คงกลายเป็นสิ่งตอกย้ำเป้าหมายในอดีต ว่าคุณวิชัยสามารถทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ กับสิ่งที่เขาเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า "วันหนึ่งเราจะซื้อทีม แล้วเอามาสู้เชลซีให้ได้"

เป็นผู้นำที่เหมือนหัวหน้าครอบครัว

“คุณวิชัยเปรียบเสมือนพ่อ เขาเป็นคนดี มีจิตใจที่ยิ่งใหญ่”

คำพูดของ ริยาด มาห์เรซ นักเตะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ให้สัมภาษณ์กับ สกาย สปอร์ต หลังยิงประตูพาทีมคว้าชัย 1-0 พร้อมกับการแสดงออกด้วยการชี้นิ้วมือทั้งสองข้างขึ้นฟ้า ซึ่งเป็นการระลึกถึงประธานสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมเก่าที่ปลุกปั้นมา การกล่าวยกย่องคุณวิชัย ของริยาด มาห์เรซ ครั้งนี้เป็นสิ่งที่เขาได้รับตลอด 4 ปี ที่เขาอยู่ในเมืองเลสเตอร์

หลังจากที่ สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก และได้มาพักผ่อนที่ประเทศไทย คุณวิชัย บอกเคล็ดลับการบริหารทีมฟุตบอลไว้ว่า “เราอยู่กันแบบครอบครัว ผมใช้วิธีแบบไทย ๆ ของพวกเราเข้าไปอยู่กับพวกเขา คุยกับพวกเขา เข้าใจปัญหาของพวกเขา และแก้ปัญหาให้พวกเขา มันทำให้ประสบความสำเร็จดั่งเช่นวันนี้” จะเห็นได้จากการที่เขาแสดงออกถึงการให้ความสำคัญกับเหล่านักเตะ เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน

คุณวิชัยลงทุนซื้อรถ BMW i8 ให้เป็นรางวัลกับนักเตะทุกคน ที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งปี หลังการคว้าแชมป์ฟุตบอลลีก ดูไปก็คล้ายกับคุณพ่อซื้อของขวัญให้กับลูก ๆ ที่เรียนจบอย่างไรอย่างนั้น ตอนครบรอบอายุครบ 60 ปี เขาก็จัดการเลี้ยงเครื่องดื่ม โดนัท ให้แฟนบอลที่เข้ามาชมเกมของเลสเตอร์ ซิตี้ในวันนั้น อีกทั้งการบริจาคเงินกว่า 2 ล้านปอนด์ เพื่อสมทบทุนสร้างโรงพยาบาลเด็กแห่งใหม่ในเมืองเลสเตอร์ แสดงให้เห็นว่า คุณวิชัยไม่ได้เห็นแค่คนทำงานในสังกัดเป็นครอบครัวของเขา แต่ยังรวมไปถึงคนในชุมชนเลสเตอร์ด้วย

เป็นผู้นำที่ให้ความสำคัญกับลูกน้อง

“มันอาจฟังดูบ้า แต่คุณวิชัย ไม่ได้เป็นเจ้าของทีมฟุตบอลเท่านั้น นักเตะเลสเตอร์เอง ก็คงเห็นด้วยกับผมที่พูดแบบนี้ เพราะเวลาส่วนใหญ่รู้สึกเหมือนว่า เขาคือหนึ่งในกลุ่มนักเตะด้วย”

ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ในสื่อ เดอะ ไทมส์ ที่ ดริงค์ วอเทอร์ อดีตนักเตะเลสเตอร์ ซิตี้ ผู้ร่วมคว้ามแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในปี 2015 - 2016 กล่าวไว้

ทีมฟุตบอลในยุโรป ที่มีเจ้าของเป็นคนต่างชาติส่วนใหญ่ มักแยกความสัมพันธ์และหน้าที่อย่างออกจากกันชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของเจ้าของทีมกับพนักงานหรือผู้จัดการทีมกับนักฟุตบอล ซึ่งมักจะเป็นไปในลักษณะของผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ไม่ใช่กับการทำงานของคุณวิชัย ประสบการณ์ของเขารู้ว่า การสร้างความสัมพันธ์ที่ดูกับลูกน้องเป็นเรื่องที่สำคัญ นโยบายของสโมสรเปิดโอกาสให้ทุก ๆ ฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น การจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายในองค์กร จะเห็นได้จากที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมบังเหียนของคุณวิชัย กลายเป็นสโมสรที่แทบจะไม่มีข่าวเรื่องความขัดแย้งภายในองค์กรออกมาเลย แม้แต่การตัดสินใจในการปลดผู้จัดการทีมอย่าง ไนเจล เพียร์สัน กับ คลาดิโอ รานเอรี ผู้ที่พาทีมความแชมป์ลีกแชมป์เปี้ยนชิพ และ แชมป์พรีเมียร์ลีก ก็ไม่มีข้อครหาอะไรตามมา

ต่างจากหลายทีมในประเทศอังกฤษ ที่ผู้จัดการทีมหลายคนหลังโดนปลด มักออกมาพาดพิงถึงต้นสังกัดเก่า แต่ไม่ใช่กับอดีตผู้จัดการทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ทั้งสองคน นี่แสดงให้เห็นถึงว่าคุณวิชัยให้ความสำคัญกับลูกน้อง กระทั่งสิ้นสุดวาระการทำงาน ก็ยังคงความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

เป็นผู้นำที่รู้จักให้มากกว่าเป็นผู้รับ

หลายคนรู้จักคุณวิชัย จากการเป็นมหาเศรษฐี อันดับ 5 ของเมืองไทย

หลายคนรู้จักคุณวิชัย จาการเป็นเจ้าของทรัพย์สิน มากกว่า 1แสน ล้านบาท

หลายคนรู้จักคุณวิชัย จากการเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้

และหลายคนรู้จักคุณวิชัย จากการเป็นผู้ให้

“ผมมีนิสัยที่ชอบให้มากกว่ารับ อย่างที่เล่า พ่อแม่ส่งเงินให้ใช้อาทิตย์ละ 50 เหรียญ แต่ผมใช้วันเดียวหมด แจกจ่ายไปทั่ว คนถึงจำผมได้เพราะผมแชร์ความสุข อย่ามาถามนะว่าพรุ่งนี้กินอะไร เอนจอยวันนี้ก่อน แต่ผมเชื่อว่าเราไม่จนตรอกหรอก เดี๋ยวมันก็มาเอง และก็จริง หลายครั้งผมพบว่าเพราะการให้ของเรานี่แหละ ที่ทำให้ผมไม่เคยจนตรอกสักครั้ง”

บทสัมภาษณ์ของคุณวิชัย กับนิตยสารแพรว ฉบับที่ 841 นี้ แสดงให้เห็นว่า คุณวิชัยมีความศรัทธาในการให้ตั้งแต่เด็กและความศรัทธานี้ส่งต่อจากนามส่วนตัวนี้ ขยายไปเป็นภาพลักษ์ขององค์กร

ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ King Power ได้มอบกิจกรรมดี ๆ มากมายไว้ให้ประเทศไทย โดยเน้นไปที่การสร้างรากฐาน ไม่ว่าจะเป็น

• การมอบลูกฟุตบอล 1 ล้านลูกผ่านโครงการ "ล้านลูก ล้านพลัง สานฝันเด็กไทย"
• การมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมมาตรฐานสากล จำนวน 100 สนามภายใน 5 ปี
• การมอบทุนการศึกษาให้เยาวชน และส่งไปฝึกทักษะฟุตบอลที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ
• การให้ความรู้กับชาวบ้าน ผู้ผลิตในชุมชน เพื่อพัฒนาสินค้าชุมชน
• การให้จัดจำหน่ายสินค้า OTOP ที่สนามบิน และ King Power ทุกสาขา เพื่อเผยแพร่สินค้าจากภูมิปัญญาของคนไทยให้แพร่หลาย
• การมอบทุนสมทบโครงการ “ก้าวคนละก้าว” มากกว่า 100 ล้านบาท
• การเป็นผู้สนับสนุนความสามารถของเยาวชน ในรายการ “ซุเปอร์เท็น” และอื่น ๆ อีกมากมาย

เชื่อว่าการให้ทุกครั้งที่ผ่านมาของคุณวิชัย จะเป็นการสร้างโอกาสและแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ได้รับ เพื่อสานต่อการให้ที่ยิ่งใหญ่นี้ไปอีกในอนาคต เพราะการให้ คือการแบ่งปันผู้อื่น การให้ คือการสร้างความสุข และการให้ ไม่ได้ทำให้ใครจนตรอก

แหล่งที่มา : https://bit.ly/2AL2E6r , https://bit.ly/2OlXKjR , https://bit.ly/2EXqoYX