FINTECH หรือ FINANCIAL TECHNOLOGY

FinTech หรือ Financial Technology

Fin Tech ย่อมาจาก Financial Technology คือเทคโนโลยีทางการเงิน ที่ช่วยให้คนเข้าถึงการบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น

เช่น ตู้ ATM , บัตรเครดิต , Online Banking ฯลฯซึ่งก็พัฒนาตัวเองมาอยู่เรื่อยๆ แต่สาเหตุที่ในปัจจุบัน Fin Tech

เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากก็เพราะ การเกิดขึ้นมาของธุรกิจ Startup

จะเห็นได้ว่าเมื่อก่อน Fin Tech มักจะเกิดขึ้นจากอุตสาหกรรมทางการเงินเก่าแก่ นั่นก็คือ ธนาคาร แต่ในปัจจุบันต่างออกไปตรงที่

การทำธุรกรรมทางการเงินไม่จำเป็นต้องไปทำผ่านธนาคารเหมือนสมัยก่อน ซึ่งหลายๆ ธุรกิจ ก็พยายามจะนำเอา Fin Tech

มาประยุกต์ใช้กับการทำธุรกรรมทางการเงินเพื่อให้สามารถนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ช่วยให้ผู้บริโภคสะดวกมากยิ่งขึ้น เข้าถึงบริการมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญในต้นทุนที่ต่ำลง

ในปัจจุบันก็ได้เข้ามามีบทบาทในธุรกิจต่างๆ ของไทย ซึ่งสามารถแบ่งประเภทออกมาได้ดังนี้

1. Payment Gateway / Wallet (บริการจ่ายเงิน/กระเป๋าเงินออนไลน์)

บริการเหล่านี้นับเป็น Fin Tech ที่บูมที่สุดในยุคนี้ เพราะเป็นช่องทางที่จะทำให้ผู้บริโภคสามารถชำระค่าบริการต่างๆ โดยไม่ต้องผ่านธนาคาร

และยิ่งหลังๆ เริ่มมีทำเป็นกระเป๋าออนไลน์ผู้กับบัญชีธนาคารไว้ ยิ่งสะดวกเข้าไปอีก ซึ่งผู้ให้บริการที่เห็นชัดที่สุดในประเภทนี้

ก็ได้แก่ Moblie Operator ต่างๆ เช่น True ก็ทำ TrueMoney ออกมา AIS ก็ทำ AIS mPay ขึ้นมา และอีกหลายๆ

ผู้ให้บริการทั้งรายใหญ่ รายเล็ก รวมถึง Startup ที่น่าสนใจอีกหลายรายเช่นกัน

2. Crowdfunding (การระดมทุน Online)

เมื่อก่อนอยากจะลงทุนทำอะไรซักอย่างก็ต้องวิ่งไปขอเงินกู้จากธนาคาร จะกู้ผ่านไม่ผ่านก็ต้องขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย

แต่ปัจจุบันถ้าคุณมี Project อยากจะลงทุน เพียงแค่นำเสนอแนวคิด และแผนธุรกิจขึ้นบนโลก Online ถ้ามีคนสนใจร่วมลงทุนกับคุณ

คุณก็สามารถสร้าง Project ออกมาได้สมใจ ยกตัวอย่าง Fin Tech ประเภทนี้ก็ต้อง Kickstarter

3. ปล่อยสินเชื่อ Online

อีกรูปแบบหนึ่งของการกู้ยืมเงิน อาจจะไม่ได้ไปลงทุน แต่อาจจะเอาไปทำอย่างอื่น Fin Tech ก็จัดให้ โดย Fin Tech

ประเภทนี้จะเป็นตัวกลางระหว่างผู้ให้กู้และผู้กู้ แทนธนาคาร แต่ถ้าอยากลองใช้บริการก็ต้องระวังเพราะยังไม่มีกฎหมายควบคุ

เรื่องของการตั้งดอกเบี้ยอย่างชัดเจนขนาดนั้น ถ้ากู้ไปอาจจะเสียหายอย่างใหญ่หลวง

4. Stock Analysis (การบริการด้านหุ้น)

ประเภทนี้ขาหุ้นน่าจะรู้จักกันดี เพราะมี Startup หน้าใหม่หลายรายทำออกมาได้น่าสนใจ ช่วยบริการวิเคราะห์ให้คะแนนหุ้นแต่ละตัว

มีกราฟแสดงแนวโน้มของหุ้น แนะนำว่าควรซื้อควรขายเมื่อไหร่ ผู้ให้บริการเหล่านี้ได้แก่ SiamChart, StockRadars เป็นต้น